ira logo
ira logo
EN
TH

กลับไปหน้าบทความทั้งหมด

ยาคุมกินแล้วอ้วนจริงไหม? ความเชื่อเกี่ยวกับยาคุมต่างๆ

December 16, 2024

6 นาที

ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน เป็นอีกหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่หลาย ๆ คนเลือกใช้ เพราะหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูง เมื่อเทียบกับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงเคยได้ยินเรื่องผลข้างเคียงของยาคุม ที่อาจทำให้เกิดความลังเลหรือสับสนได้ เพราะกลัวว่าน้ำหนักจะพุ่งพรวด หรือเคยได้ยินมาว่ากินแล้วหน้าจะเป็นสิว ผิวหมองคล้ำ ทำให้เกิดความเชื่อเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดผสมกับข้อเท็จจริง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปไขข้อสงสัยว่าการกินยาคุมกำเนิดทำให้อ้วนจริงหรือไม่ พร้อมเจาะลึกความเชื่อยอดฮิตเกี่ยวกับยาคุม เพื่อให้แต่ละคนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า ยาคุมเหมาะสมกับเรามากน้อยแค่ไหน และหากทานยาคุมแล้ว เราควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

ยาคุมคืออะไร กินยาคุม ยังไงดี

Contraceptive Pill_2

ยาคุมกำเนิด คือ ยาที่ใช้เพื่อคุมกำเนิดโดยเฉพาะตามชื่อ ซึ่งเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มสาว ๆ มีรูปแบบเป็นเม็ดที่รับประทานง่าย โดยมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เพียงอย่างเดียว หรือมีส่วนผสมของฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) ร่วมด้วย
ซึ่งจะมีหน้าที่ป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการยับยั้งการตกไข่ ทำให้มูกปากมดลูกข้นขึ้น และลดความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้อสุจิและไข่เกิดการปฏิสนธิได้ยากขึ้น สำหรับบางคนยาคุมไม่ได้เพียงแค่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ยังใช้ในทางการแพทย์สำหรับการปรับความสมดุลของฮอร์โมน ลดอาการปวดประจำเดือน หรือควบคุมรอบเดือนอีกด้วย

วิธีกินยาคุมที่ถูกต้อง

Contraceptive Pill_3

การกินยาคุมกำเนิดให้ได้ผลดีและปลอดภัยที่สุด จำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเพื่อให้ฮอร์โมนในยาคุมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ควรลืมกินยาและควรกินยาเวลาเดิมทุกครั้ง จึงเหมาะกับคนที่สามารถกินยาได้ทุก ๆ วัน โดยมีวิธีการดังนี้

1.ยาคุมแบบฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptives) ที่มีทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด มีวิธีกินแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้

  • สำหรับยาคุมที่มี 21 เม็ดให้กินวันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 21 วัน และเว้นไป 7 วัน ก่อนจะเริ่มรอบใหม่ โดยในช่วงที่เว้นจะเป็นช่วงที่มีประจำเดือนมา
  • สำหรับยาคุมที่มี 28 เม็ด ให้กินต่อเนื่องโดยไม่ต้องเว้น 7 วัน แต่ให้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดย 7 เม็ดที่เหลือจะเป็นธาตุเหล็ก เพื่อป้องกันการลืมทานยา เหมาะสำหรับคนที่ค่อนข้างขี้ลืม หรือกลัวว่าจะนับวันผิด

2.ยาคุมแบบโปรเจสตินเดี่ยว (Progestin-only Pills) เหมาะสำหรับผู้ที่ให้นมบุตรหรือแพ้ฮอร์โมนเอสโตรเจน

  • เริ่มกินในช่วง 5 วันแรกของรอบเดือน ยาจะมีประสิทธิภาพทันที ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดเสริม แต่หากเกิน 5 วันให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหลังจากกินยาคุม 2 วันเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  • ในวันต่อ ๆ มา กินยาคุมในช่วงเวลาเดียวกัน โดยไม่ให้เกิน 3 ชั่วโมงของช่วงเวลาที่ปกติทานยาคุม และกินต่อเนื่องทุกวัน

ทำอย่างไรเมื่อลืมกินยาคุม?

หากลืมกินยาคุมจำนวน 1 เม็ด ให้กินยาคุมเม็ดนั้นทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดถัดไปได้เลยตามปกติ เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ลดลงไป เพราะฉะนั้น วันนั้นคุณอาจจำเป็นต้องกินยาคุมสองครั้ง

ข้อควรระวังลืมกินยาคุม 1 เม็ด ให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดถัดไปตามปกติ เพื่อให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดยังคงอยู่ แต่ถ้าหากลืมกินยาคุมจำนวน 2 เม็ดขึ้นไป ให้กินเม็ดล่าสุดที่ลืมทันที และทิ้งเม็ดก่อนหน้านั้นไป และกินเม็ดถัดมาในเวลาปกติที่กินประจำวัน และเมื่อมีเพศสัมพันธ์ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยถึง 7 วันต่อจากนี้ สำหรับเสริมประสิทธิภาพการคุมกำเนิด เพราะจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

ข้อควรระวังการกินยาคุม

การกินยาคุมกำเนิดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ก็ยังมีข้อควรระวัง เพื่อให้การใช้งานได้ผลดีที่สุดและปลอดภัยต่อร่างกาย การเลือกยาคุมให้เหมาะสมกับร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากยาคุมมีหลายประเภท เช่น ยาคุมฮอร์โมนรวมและยาคุมโปรเจสตินเดี่ยว หากคุณมีปัญหาสุขภาพ เช่น แพ้ฮอร์โมน หรือมีประวัติการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ นอกจากนี้ การกินยาให้ตรงเวลาในแต่ละวันก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้คงที่ หากลืมกินยา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุในเอกสารกำกับยาอย่างเคร่งครัดและการหยุดใช้ยาคุมกลางแผงอาจทำให้รอบเดือนผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น หากต้องการหยุดใช้งาน ควรรอให้หมดแผงแล้วจึงหยุด นอกจากนี้ ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะบางประเภท หรือยาสมุนไพรบางตัว อาจลดประสิทธิภาพของยาคุมได้ จึงควรปรึกษาแพทย์หากต้องใช้ยาอื่นร่วมด้วย สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดทางสุขภาพ เช่น สูบบุหรี่และอายุมากกว่า 35 ปี หรือมีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาคุมประเภทฮอร์โมนรวม และหากพบอาการผิดปกติ เช่น ปวดขา หายใจลำบาก หรือปวดศีรษะรุนแรง ควรหยุดใช้และรีบพบแพทย์ทันที การกินยาคุมกำเนิดอาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว หรือคัดเต้านม ซึ่งมักจะหายไปเมื่อร่างกายปรับตัวได้ อย่างไรก็ตาม การสังเกตอาการผิดปกติและการปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การใช้ยาคุมกำเนิดมีความปลอดภัยและเหมาะสมกับร่างกายของคุณมากที่สุด

ไขข้อสงสัย ยาคุมกินแล้วอ้วนจริงไหม ?

Contraceptive Pill_4

หนึ่งในคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิดคือ ยาคุมกินแล้วอ้วนจริงไหม? คำตอบคือ ไม่เสมอไป เพราะการเพิ่มน้ำหนักตัวไม่ได้เกิดจากยาคุมโดยตรงในทุกคน แต่เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในบางกรณีเท่านั้น การตอบสนองต่อยาคุมกำเนิดของแต่ละคนแตกต่างกัน และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจากฮอร์โมนในยาคุม ไม่ว่าจะเป็น

  1. การกักเก็บน้ำในร่างกาย เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมบางชนิดอาจกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำและเกลือมากขึ้น ซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นเพียงการเพิ่มน้ำหนักชั่วคราวและไม่ได้เกิดจากไขมันส่วนเกิน ซึ่งควรเลือกยาคุมที่มีโดรสไพริโนน (Drospirenone) ที่ช่วยต้านการบวมน้ำ
  2. ความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนโปรเจสตินในยาคุมบางชนิดอาจมีผลต่อความอยากอาหาร ทำให้บางคนรู้สึกหิวบ่อยขึ้นและกินมากขึ้น 
  3. การเปลี่ยนแปลงของการเผาผลาญพลังงาน ฮอร์โมนในยาคุมอาจส่งผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานในบางคน ทำให้ร่างกายใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมของไขมันได้

รวมความเชื่อเกี่ยวกับยาคุมต่างๆ ที่ควรรู้

Contraceptive Pill_5

ในการใช้ยาคุมต่าง ๆ ที่มีหลายประเภท ก็จะมีความเชื่อหลายแบบที่ตามมาด้วย เนื่องจากหลังจากเริ่มทานยาคุมแล้ว บางคนมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจสังเกตได้ตามมา ทั้งในส่วนของรูปร่าง ผิวพรรณ ผมร่วง หรือการแปรปรวนของอารมณ์ ซึ่งอาจทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเข้าใจผิด หรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการใช้ยาคุมได้ เพราะยาคุมมีหลายชนิด และผลข้างเคียงก็อาจเกิดในบางคนเท่านั้น และแตกต่างกันไปในแต่ละคน

ยาคุมกินแล้วหน้าใส ได้จริงหรือ

มีความเป็นไปได้ เพราะยาคุมบางชนิดช่วยลดฮอร์โมนเอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินและทำให้เกิดสิว รวมทั้งลดการอักเสบของผิว ซึ่งฮอร์โมนในยาคุมจะช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย ลดการอักเสบและการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้

กินยาคุม บริจาคเลือดได้ไหม

สามารถบริจาคเลือดได้แม้ว่าจะกำลังใช้ยาคุมกำเนิดอยู่ เพราะยาคุมกำเนิดไม่ถือเป็นข้อห้ามในการบริจาคเลือด ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของเลือดที่บริจาค และไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้รับเลือด อย่างไรก็ตาม มีข้อควรรู้และข้อแนะนำที่ควรพิจารณาเพื่อให้การบริจาคเลือดปลอดภัยทั้งต่อผู้บริจาคและผู้รับเลือด

กินยาคุมแล้วผอมมีอยู่จริงไหม

การกินยาคุมแล้วน้ำหนักลดลง ก็เป็นผลข้างเคียงเช่นเดียวกับที่บางคนมีน้ำหนักมากขึ้น ในบางคนที่มีภาวะฮอร์โมนแปรปรวนอยู่แล้วก็อาจมีผลต่อการอยากอาหารที่ลดลง จึงทานได้น้อยลงนั่นเอง

กินยาคุมแบบ 28 วันกี่วัน ถึงมีเพศสัมพันธ์ได้

หากเริ่มกินยาคุมแบบ 28 วันในวันแรกของรอบเดือน หรือวันแรกที่ประจำเดือนมาก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เลย แต่ถ้าหากคุณเริ่มกินยาคุมหลังวันแรกที่ประจำเดือนมาแล้ว คุณควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นเสริมในช่วง 7 วันแรกของการกินยาร่วมด้วย เช่น การใส่ถุงยางอนามัย

อย่างไรก็ตาม การกินยาคุมก็เป็นอีกแค่หนึ่งในวิธีที่ช่วยคุมกำเนิดสำหรับคนที่ยังไม่มีแผนจะมีลูก และเป็นทางที่ดีสำหรับคนที่กังวลเรื่องการท้องไม่พร้อม แต่สำหรับคนที่กังวลเรื่องการกินยาคุมแล้วจะอ้วน รู้สึกกังวลใจจากความเชื่ออื่น ๆ  มีโรคประจำตัว กังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว หรือกังวลเรื่องผิวพรรณที่อาจเปลี่ยนไปจนรู้สึกไม่มั่นใจได้ ทางเราก็แนะนำในคุณไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการทานยาคุม เพื่อได้รับคำแนะนำถึงวิธีคุมกำเนิดและยี่ห้อของยาคุมที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณมากที่สุด ทั้งนี้ อย่าลืมว่าอย่างไรก็ตาม ยาคุมกำเนิดไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณจึงควรที่จะใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดและการป้องกันโรคติดต่อทางเพศที่สูงสุด

ดูแลสุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน กับ ira concept

https://s.shopee.co.th/4AhRBmCpud

https://www.lazada.co.th/shop/ira-concept

สมัครรายเดือนกับ ira
https://bit.ly/3zFzA1f

Join the movement.

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารจากเรา

EN
TH
hello@iraconcept.com
© 2025 by Ira Concept Co. Ltd.,