ira logo
ira logo
EN
TH

กลับไปหน้าบทความทั้งหมด

ช่องคลอดแห้งเกิดจากอะไร วิธีดูแลช่องคลอดให้สดใส!

August 28, 2024

7 นาที

ช่องคลอดแห้ง หรือชื่อเรียกแบบเป็นทางการว่า ภาวะช่องคลอดแห้ง (Vulvovaginal atrophy) คือภาวะที่เยื่อบุช่องคลอดขาดความชุ่มชื้นหรือน้ำหล่อลื่นจนแห้ง แล้วเกิดความรำคาญใจที่น้องสาว เพราะจะพ่วงมาด้วยอาการคัน ระคายเคือง โดยเฉพาะเวลามีเซ็กซ์จะแสบ ร้อน ไปจนถึงบางคนมีเลือดออกจากการถลอกได้ โดยสาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ทำให้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเกิดเฉพาะกับคนที่เข้าสู่ช่วงวัยใกล้หมดฮอร์โมน (menopause) เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วสามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกช่วงวัย ที่ในบางคนอาจเกิดจากผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด ไปจนถึงการบ่งบอกว่าอาจมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เกิดขึ้น

แต่ทุกคนสามารถบอกลาอาการช่องคลอดแห้งได้ เพียงแค่เรารู้วิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ว่าเราควรกินอะไร ควรกินวิตามินอะไร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไร หรือถ้าช่องคลอดแห้ง จะรักษาอย่างไรบ้าง หากมีอาการอื่นที่ทำให้เรารู้สึกกวนใจไม่หาย และเมื่อไรที่เราควรไปหาหมอ

ช่องคลอดแห้งเกิดจากอะไร?

vaginal-dryness_2

สาเหตุของปัญหาช่องคลอดแห้งเกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งค่อนข้างส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของหลายคนได้อย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่ผิวบริเวณช่องคลอดแห้ง แต่เป็นบริเวณเยื่อบุบริเวณช่องคลอด ที่โดยปกติจะมีสารหล่อลื่น หรือตกขาวมาเพิ่มความชุ่มชื้นให้บริเวณนี้อยู่แล้ว เมื่อเกิดอาการแห้ง ก็จะ
ระคายเคือง ไปจนถึงแสบคัน ปัสสาวะขัดได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังเรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศและสุขภาพอนามัยด้วย โดยมีสาเหตุหลายข้อด้วยกัน คือ

  1. การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน นี่เป็นสาเหตุหลัก โดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของช่องคลอด เมื่อระดับฮอร์โมนลดลง จึงทำให้ช่องคลอดแห้งได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าช่วงวัยอื่นจะไม่มีปัญหานี้
  2. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้แพ้ ยาต้านฮิสตามิน ยาคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือช่องคลอดแห้งได้
  3. การให้นมบุตร ที่มีผลทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงก็ทำให้ช่องคลอดแห้งได้
  4. การรักษาด้วยรังสี ในผู้ป่วยมะเร็งที่ฉายด้วยรังสีบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจทำให้เนื้อเยื่อ
    ในช่องคลอดเสียหายได้
  5. การแพ้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการระคายเคือง
  6. ภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำและทำให้ช่องคลอดแห้ง

การสวนล้างช่องคลอด ที่ทำให้สมดุลแบคทีเรียเปลี่ยนไป และกรณีนี้อาจนำมาสู่การติดเชื้อ
ที่ตามมาได้ด้วย

ช่องคลอดแห้ง อาการเป็นอย่างไรบ้าง

vaginal-dryness_3

ช่องคลอดแห้ง จะมีอาการต่าง ๆ ที่ค่อนข้างกวนใจ ไปจนถึงสร้างความทรมานที่กระทบกับชีวิตประจำวัน และความสัมพันธ์กับชีวิตคู่ได้ในบางคน มารู้จักอาการเหล่านี้ เพื่อให้เราสังเกตอาการตัวเองกันได้ง่ายขึ้นกันดีกว่า

  1. รู้สึกแสบหรือคันในช่องคลอดเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด เพื่อการขาดความชุ่มชื้นสามารถทำให้
    ผนังช่องคลอดระคายเคืองได้ง่าย
  2. มีเพศสัมพันธ์แล้วรู้สึกเจ็บ เพราะการขาดสารหล่อลื่นตามธรรมชาติทำให้ช่องคลอดแห้ง
    เมื่อมีเซ็กซ์ หรือเกิดการเสียดสีบริเวณช่องคลอด อาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่สบาย ไปจนถึงบางคนมีเลือดออกระหว่างมีเซ็กซ์ และอาจนำไปสู่ปัญหาที่กระทบความสัมพันธ์ของชีวิตคู่สำหรับบางคนได้ด้วย เพราะบางคนอาจถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้น ความต้องการทางเพศก็ลดลงตามมาด้วย
  3. รู้สึกระคายเคือง หรือรู้สึกไม่สบายในช่องคลอด โดยเฉพาะในขณะเดินหรือนั่ง อาจเกิดขึ้น
    เมื่อผนังช่องคลอดแห้งและอ่อนไหว
  4. มีความรู้สึกช่องคลอดตึง การที่ช่องคลอดแห้ง แล้วทำให้รู้สึกตึงหรือไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร
    อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
  5. ตกขาวลดลง การขาดสารหล่อลื่นตามธรรมชาติอาจทำให้ปริมาณตกขาวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  6. มีอาการเจ็บปวดหลังการปัสสาวะ การระคายเคืองในบริเวณช่องคลอดอาจทำให้เกิดอาการ
    เจ็บปวดหรือรู้สึกแสบหลังการปัสสาวะ

ช่องคลอดแห้ง รักษายังไง

vaginal-dryness_4

แต่ก็ใช่ว่าเรื่องของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงจากหลาย ๆ สาเหตุ ทำให้เราต้องเผชิญกับสิ่งนี้ไปตลอด เพราะภาวะช่องคลอดแห้งรักษาได้ มาดูกันดีกว่าว่ารักษายังไงได้บ้าง

  1. ใช้สารหล่อลื่น (Lubricants) เช่น
  • สารหล่อลื่นสูตรน้ำ เหมาะสำหรับการใช้ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ช่วยลดความเจ็บปวดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องคลอด
  • สารหล่อลื่นสูตรซิลิโคน ซึ่งมีความลื่นและอยู่ได้นานกว่าสูตรน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ
    ช่องคลอดแห้งมาก
  1. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ช่องคลอด (Vaginal Moisturizers) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในช่องคลอด
    ในระยะยาว ควรใช้เป็นประจำเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผนังช่องคลอด
  2. การใช้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy - HRT) แบ่งออกเป็น
  • การใช้เอสโตรเจนเฉพาะที่ เช่น ครีมเอสโตรเจน, ยาเม็ดสอดช่องคลอด, หรือวงแหวน
    เอสโตรเจน วิธีนี้ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในบริเวณช่องคลอดโดยตรง
    และช่วยลดอาการช่องคลอดแห้งได้
  • ฮอร์โมนทดแทนแบบระบบ (Systemic Hormone Therapy) ซึ่งจะเหมาะกับคนวัยทองมากกว่า โดยการรักษาแบบนี้ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยในการใช้ฮอร์โมน แนะนำไม่ซื้อการทานเอง
  1. ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพช่องคลอด
  2. หลีกเลี่ยงสารเคมีที่ระคายเคือง เช่น สบู่ที่มีสารเคมีแรง น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
    ที่อาจทำให้ช่องคลอดระคายเคือง
  3. ลดความเครียด เพราะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย การจัดการความเครียดด้วยการฝึกสมาธิ โยคะ หรือการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย สามารถช่วยลดอาการช่องคลอดแห้งได้
  4. หยุดสูบบุหรี่ ที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพช่องคลอด

ช่องคลอดแห้ง กินอะไรดี

แน่นอนว่าการดูแลตัวเองเรื่องอาหารการกิน ก็เป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจสำหรับการหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และอาหารบางประเภทก็ช่วยให้ร่างกายเราปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุลมากขึ้น เพื่อลดปัญหาของการเกิดช่องคลอดแห้งได้ กลุ่มอาหารที่ควรเลือกกิน ได้แก่

  1. อาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ก็คือ สารประกอบจากพืชที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน
    ในร่างกาย ช่วยให้ระดับฮอร์โมนสมดุลขึ้นได้ เช่น ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวย นมถั่วเหลือง
  2. เมล็ดพืช เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน
  3. ธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง
  4. อัลมอนด์ อุดมไปด้วยวิตามินอีและไขมันดี ที่ช่วยบำรุงผิวและเยื่อบุ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
  5. อะโวคาโด เป็นแหล่งของวิตามินอีและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
  6. อาหารที่มีโอเมก้า 3  ที่ช่วยลดการอักเสบและบำรุงผิวพรรณ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่าเมล็ดเจีย
  7. ผักใบเขียว ที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น magnesiumที่ช่วยบำรุงร่างกายโดยรวม
  8. ผลไม้หลายชนิด ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น
  9. การดื่มน้ำมากขึ้น เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นทั่วร่างกาย รวมถึงช่องคลอดด้วย

ช่องคลอดแห้ง กินวิตามินอะไรดี

นอกจากอาหารแล้ว วิตามินที่ร่างกายได้รับเข้าไปก็เป็นอีกส่วนสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามวิตามินไม่ได้ใช้ในการรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง แต่ช่วยสนับสนุนสุขภาพร่างกาย และช่องคลอดของเราได้ 

  1. วิตามินอี (Vitamin E) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมถึงผนัง
    ช่องคลอด 
  2. วิตามินดี (Vitamin D) ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันและส่งเสริมสุขภาพของผิว
  3. กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3 Fatty Acids) ตามอาหารที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็ช่วยเรื่องช่องคลอดแห้งได้
  4. วิตามินบี (Vitamin B Complex) โดยเฉพาะวิตามินบี 2, บี 6 และบี 12 ช่วยในการสร้างพลังงานและส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของฮอร์โมน
  5. วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินซีช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวและผนังช่องคลอดได้
  6. โพรไบโอติกส์ (Probiotics) โพรไบโอติกส์ช่วยเสริมสร้างสมดุลของแบคทีเรียในร่างกาย
    และช่องคลอด การรับประทานโยเกิร์ตหรืออาหารเสริมโพรไบโอติกส์สามารถช่วยลดอาการ
    ช่องคลอดแห้งและเพิ่มความชุ่มชื้น 

อย่างไรก็ตาม วิธีการดูแลอื่น ๆ ที่เราใส่ใจอีกหลายวิธีนั่นก็คือ การลองจดบันทึกประวัติความผิดปกติของช่องคลอดเรา ปริมาณตกขาว ระยะเวลาที่มีตกขาว ประจำเดือนในแต่ละรอบเดือน เพื่อให้เรามีข้อมูลสำหรับคุยกับแพทย์ เมื่อถึงวันที่ต้องไปหาหมอ เพื่อรับการวินิจฉัยถึงความผิดปกติต่าง ๆ ตลอดจนการจะรับประทานยาหรือวิตามินบางชนิด ก็ต้องมาจากผลวินิจฉัยของแพทย์เท่านั้น และสิ่งสำคัญเลยคือ อย่าลืมดูแลช่องคลอดของเรา ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเหมาะสม ซึ่งวิธีนี้เป็นเรื่องที่เราตัดสินใจได้เอง เช่น การไม่ใช้สบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีรุนแรงเกินไป การใช้เจลหล่อลื่นที่อ่อนโยน เหมาะกับการใช้ในช่องคลอด การป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และใช้ผ้าอนามัย หรือแผ่นอนามัย
ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อย่างผ้าอนามัย ira ที่ทำมาจากธรรมชาติ ชาววีแกน หรือคนที่รักษ์โลกใช้ได้
เพราะย่อยสลายได้ 99% และไม่มีสารเคมีในการซึมซับ และไม่มีน้ำยาย้อมสี ในช่วงที่บางคนช่องคลอดแห้ง แต่อาจจะมีเลือดออก หรือในคนวัยทองที่มีปัสสาวะเล็ด ก็ใช้สำหรับซึมซับได้ หมดกังวลไม่อับชื้น
กดดู Subscrib Plan สำหรับราคาที่คุ้มกว่าได้เลย


Join the movement.

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารจากเรา

EN
TH
hello@iraconcept.com
© 2025 by Ira Concept Co. Ltd.,